สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑ ประชุมเชิงปฏิบัติการ ITA Online ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘

ดร.กัญจนา สัตตรัตนำพร ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑ เป็นประธานเปิดพร้อมบรรยายพิเศษการประชุมเชิงปฏิบัติการ การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ (Integrity & Transparency Assessment Online : ITA Online) ณ หอประชุมพิมานพรหม สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑

วันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ ดร.กัญจนา สัตตรัตนำพร ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑ เป็นประธานเปิดพร้อมบรรยายพิเศษการประชุมเชิงปฏิบัติการ การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ (Integrity & Transparency Assessment Online : ITA Online) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานศึกษาทราบแนวทางและได้รับความรู้การจัดทำเว็บไซต์ของสถานศึกษาเพื่อรองรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ หอประชุมพิมานพรหม สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑ ผู้เข้าประชุมประกอบด้วย ครูผู้ดูแลระบบการประเมิน ITA Online จำนวน ๗๗ โรงเรียน รวมทั้งสิ้น ๑๕๔ คน คณะวิทยากร นายสุพรมแดน ประทุมเมศ รอง ผอ.สพป.บุรีรัมย์ นายเกษม ทึมกระโทก ศึกษานิเทศ นายศรัณย์ โกษากุล ครูโรงเรียนอนุบาลเมืองบุรีรัมย์ (บ้านบัว) และนายมณไท ทะนารี ครูธุรการโรงเรียนบ้านหนองยาง


สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส ภาพลักษณ์ในการดำเนินงานของหน่วยงานให้ได้ผลและบรรลุวัตถุประสงค์ตามวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่กำหนดไว้ว่า ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริตและทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามให้หมดไปในสังคมไทย เพื่อเสริมสร้างการบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใสมีระบบตรวจสอบและการรับผิดชอบที่รัดกุมในสังคม ควรมีการส่งเสริมวัฒนธรรมที่มีคุณธรรมและธรรมาภิบาลนำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องและเหมาะสม


ดร.กัญจนา สัตตรัตนำพร ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต ๑ กล่าวว่า การส่งเสริมให้บุคลากรในสถานศึกษารวมไปถึงการส่งเสริมด้านการศึกษาเพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นสุจริตชน ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมให้นโยบายการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ ปรับทิศทางจากการมุ่งสร้างคนดี คนเก่ง ดำรงชีวิตสอดคล้องตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดให้มีโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา “ป้องกันการทุจริต” เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึก ค่านิยมและทัศนคติที่ถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากจุดเล็ก ๆ อย่างกลุ่มเด็กและเยาวชน แล้วจึงค่อย ๆ ขยายเข้าสู่สังคมในวงกว้างในที่สุด ซึ่งจะทำให้สังคมไทยมีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง รวมทั้งการแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน